ย้อนรอยโครงการ "ตำรวจจีนในอิตาลี" มีจุดเริ่มต้น-จุดจบอย่างไร-

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี หารือพร้อมสั่งการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ให้เตรียมพูดคุยกับสถานทูตจีนในวันที่ 15 พ.ย. 66 ที่จะทำโครงการลาดตระเวน โดยจะนำตำรวจจากประเทศจีนมาที่เมืองไทย ในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเมืองหลักเพื่อยกระดับความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวจีน

จะเห็นได้ว่า โครงการดังกล่าว มีลักษณะคล้ายกับโครงการที่ "อิตาลี" หนึ่งในชาติใหญ่แห่งยุโรป เคยนำมาปฏิบัติแล้ว เมื่อปี 2016

โฆษกรัฐบาล แจง ตำรวจจีนลาดตระเวนในไทย ไม่เกี่ยวกับความเป็นเอกราช

นายกฯ เล็งดึงตำรวจจีนร่วมลาดตระเวน เมืองท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่น

คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

อิตาลี อนุมัติตำรวจจีนในเครื่องแบบ เข้าปฏิบัติหน้าที่ในเมืองหลัก

ย้อนไปเมื่อราวต้นเดือนพฤษภาคม ปี 2016 กระทรวงมหาดไทยอิตาลีอนุมัติโครงการทดลอง ให้ตำรวจจีนในเครื่องแบบ เข้าปฏิบัติหน้าที่ในเมืองหลักของอิตาลี โดย “หลี่ รุ่ยหยู” เอกอัครราชทูตจีนประจำอิตาลี กล่าวว่า โครงการทดลองระหว่างสองประเทศนี้ ถือเป็นความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวร่วมกันโดยตรงเป็นครั้งแรกในยุโรป

โดยโครงการดังกล่าว ทางการจีนได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นาย ที่ผ่านการฝึกสอนทั้งด้านภาษา วัฒนธรรม และอื่น ๆ จากชาวอิตาลีในกรุงปักกิ่ง พร้อมสวมชุดเครื่องแบบตำรวจจีน เพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนสามารถดูออก และขอความช่วยเหลือได้ง่าย พร้อมปฏิบัติหน้าที่ในเมืองหลัก เช่น โรม และมิลาน

ด้าน อันเจลีโน อัลฟาโน รัฐมนตรีมหาดไทยอิตาลีในขณะนั้น ระบุว่า โครงการนี้ถูกวางแผนโดยให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก ซึ่งตำรวจจีน จะแบ่งปันข้อมูลร่วมกับตำรวจอิตาลี คอยช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจีน หากพวกเขาต้องการติดต่อเจ้าหน้าที่และนักการทูตในท้องถิ่น โดยโครงการนี้ จะเริ่มตั้งแต่ 13 พฤษภาคม 2016 เป็นต้นไป

ทำไมอิตาลี ถึงอนุมัติโครงการนี้?

เหลียว จินหลง ผู้อำนวยการทั่วไปของหน่วยงานประสานความร่วมมือนานาชาติของจีน ให้ข้อมูลว่า ในทุกปี อิตาลีจะมีนักท่องเที่ยวจากจีนกว่า 3 ล้านราย อีกทั้งข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทยอิตาลี ยังระบุว่า นอกจากนักท่องเที่ยวกว่า 3 ล้านรายต่อปีแล้ว ยังมีชาวจีนอีกกว่า 266,000 คน ที่ลงหลักปักฐาน และทำงานในอิตาลี แต่แทบไม่มีการติดต่อกับสังคมอิตาลีเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขอความช่วยเหลือจากตำรวจและเจ้าหน้าที่ราชการ

กระทรวงมหาดไทยอิตาลี เสริมว่า การท่องเที่ยวของชาวจีนไปยังยุโรปมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่หลังเกิดเหตุผู้ก่อการร้ายโจมตีก่อความโกลาหลในกรุงปารีสของฝรั่งเศสเมื่อปี 2015 และกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2016 ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเริ่มรู้สึกว่าทวีปยุโรปเป็นสถานที่ที่ไม่ปลอดภัย

ทางการอิตาลี จึงต้องการคิดนโยบายเพื่อฟื้นฟูภาพลักษณ์ และพยายามทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งถือเป็นชาติแรกในยุโรปที่คิดค้นและนำโครงการดังกล่าวมาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

โครงการนี้ได้ผลหรือไม่?

 ย้อนรอยโครงการ "ตำรวจจีนในอิตาลี" มีจุดเริ่มต้น-จุดจบอย่างไร-

รายงานจากเว็บไซต์สถิติ Statista ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า หลังจากที่โครงการนี้เริ่มต้นในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมปี 2016 นักท่องเที่ยวชาวจีน (รวมถึงฮ่องกง) ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักจากเอเชีย มาเยือนอิตาลีเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยในปี 2015 อิตาลี มีนักท่องเที่ยวจากจีนกว่า 3.3 ล้านคน ก่อนที่ในปี 2016 ที่เกิดเหตุรุนแรงในบรัสเซลส์ จะมีนักท่องเที่ยวจากจีนลดลงเหลือราว 2.678 ล้านคน

และหลังจากที่ดำเนินโครงการในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมปี 2016 ทำให้ในปี 2017 มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเพิ่มขึ้นเป็น 3.07 ล้านคน 3.2 ล้านคนในปี 2018 และ 3.5 ล้านคนในปี 2019 ก่อนที่จะมาเกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปี 2020

“สถานีตำรวจลับจีน” รอยร้าวที่เป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบ

ราว 5 ธันวาคม ปี 2022 มีการเปิดเผยว่า กลุ่มชาวจีนที่อาศัยอยู่ในอิตาลี ได้เปิด “สถานีตำรวจลับจีน” กว่า 11 แห่ง ในเมืองหลัก โดยฉากหน้าจะเป็นเสมือนศูนย์บริการให้ความช่วยเหลือแก่ชาวจีนในอิตาลีจริง ๆ แต่ฉากหลังกลับเป็นชาวจีนที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ พยายามผลักดันให้ชาวจีนที่อยู่ในอิตาลีกลับไปยังแผ่นดินเกิด รวมถึงมีการรังควาน ข่มขู่ คุกคาม บุคคลและครอบครัวที่อาศัยในจีนและอิตาลีด้วย

รายงานยังระบุว่า กลุ่มชาวจีนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่เหล่านี้ ยังมีการติดต่อกับกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนอีกด้วย ซึ่งอิตาลีเป็นชาติที่มี “สถานีตำรวจลับ” มากที่สุด จากรายงานการตรวจพบกว่า 100 แห่งทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ แคนาดา เนเธอร์แลนด์ สเปน สหราชอาณาจักร เยอรมนี และประเทศอื่น ๆ

ด้วยเหตุนี้ เอริกา มัสเซตตี ตัวแทนฝ่ายนิติบัญญัติแห่งสภาอิตาลี ออกมาระบุว่า “นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เราเห็นความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น หลังการอนุมัตินั่น (ให้ตำรวจจีนเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในอิตาลี) ทางรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย เร่งดำเนินการสอบสวนปัญหานี้แล้ว และยินดีเป็นอย่างยิ่งว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไข ทั้งในเมืองปราโต และเมืองใหญ่อื่น ๆ”

ส่วน ลอร่า ฮาร์ธ ผู้อำนวยการองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน Safeguard Defenders ออกมาให้ความเห็นในกรณีนี้ว่า ข้อตกลงอนุมัติการลาดตระเวนของตำรวจจีนในปี 2016 ถือเป็นข้อตกลงแรกที่ควรแก้ไข พร้อมกล่าวว่า ถือเป็นความผิดพลาดของกระทรวงมหาดไทยอิตาลี ที่ลงนามในข้อตกลงนั้น เมื่อพิจารณาแล้วว่า กลุ่มชาวจีนดังกล่าวมีการติดต่อกับกระทรวงความมั่นคงของจีน ซึ่งก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติมาแล้วหลายครั้ง

ด้าน ลีอา ควาร์ตาเพล โฆษกกรมต่างประเทศของอิตาลี ออกมาแสดงจุดยืนเช่นกัน โดยกล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลชุดนี้ยังคงจับตาความสัมพันธ์กับจีนอย่างจริงจัง ให้แตกต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลชุดนั้นของจูเซปเป คอนเต ที่มีการอนุมัติข้อตกลงนำตำรวจจีนเข้าประเทศ และประนีประนอมกับจีนมากเกินไป

ยุติโครงการ

กระทั่งช่วงกลางเดือนธันวาคม ปี 2022 กระทรวงมหาดไทยอิตาลี ประกาศ ให้ยุติโครงการความร่วมมือดังกล่าวอย่างถาวร โดยที่ทาง Safeguard Defenders ออกมากล่าวว่า การประกาศยุติโครงการดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องมาจากกรณีสถานีตำรวจลับจีนโดยตรง ที่แพร่กระจายอยู่ตามเมืองต่าง ๆ ของอิตาลี ไม่ว่าจะเป็นโรม มิลาน ปราโต เนเปิลส์ และอื่น ๆ

ในขณะที่ มัตเตโอ เปอันเตโดซี รัฐมนตรีมหาดไทยอิตาลีคนปัจจุบัน ออกมาโต้ว่า จากมติคณะรัฐมนตรีที่ประกาศยกเลิกโครงการดังกล่าวนั้น เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับสถานีตำรวจลับจีนแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงมหาดไทยอิตาลีไม่นิ่งนอนใจ และจะเร่งปราบปรามปัญหาดังกล่าวให้หมดไป และไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต

เรียบเรียงจาก Reuters / The Guardian / Euronews / Voice of America / BBC / NPR / Politico/ Statista

ภาพจากSTR, FILIPPO MONTEFORTE – AFP

สรุปเงื่อนไขเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เงินเดือนไม่ถึง 7 หมื่นได้แน่

วันหยุดเดือนธันวาคม 2566 เช็กเลยมีวันหยุดราชการ-หยุดยาววันไหนบ้าง

มาช้าแต่มาชัวร์! อุตุฯ จ่อประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวสัปดาห์นี้ กทม.อุณหภูมิต่ำสุด 17-18 องศา

By admin

Related Post